การบันทึกครั้งที่ 1
เนื้อหาที่เรียน ความรู้ที่ได้รับ
- ในช่วงแรกอาจารย์ปฐมนิเทศนักศึกษาและพูดข้อตกลงในการเรียนวิชานี้
- เริ่มเรียนเกี่ยวกับทฤฎีต่างๆ ดังนี้
ความหมายของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
2. โรคของระบบประสาท
3. การติดเชื้อ
4. ความผิดปกติเกี่ยวกับเมตาบอลิซึม
5. ภาวะแทรกซ้อนระยะแรกเกิด
6. สารเคมี
- ในช่วงแรกอาจารย์ปฐมนิเทศนักศึกษาและพูดข้อตกลงในการเรียนวิชานี้
- เริ่มเรียนเกี่ยวกับทฤฎีต่างๆ ดังนี้
เด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ( Early Childhood with special needs )
ความหมายของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
1. ทางการแพทย์
มักจะเรียกเด็กที่มีความต้องการพิเศษว่า “เด็กพิการ”
หมายถึง เด็กที่มีความผิดปกติ มีความบกพร่อง สูญเสีย สมรรถภาพ อาจเป็นความผิดปกติ ความบกพร่องทางกาย การสูญเสียสมรรถภาพทางสติปัญญา ทางจิตใจ
2. ทางการศึกษา
ให้ความหมายเด็กที่มีความต้องการพิเศษว่าหมายถึง เด็กที่มีความต้องการทางการศึกษาเฉพาะของตัวเอง ซึ่งจำเป็นต้องจัดการศึกษาให้ต่างไปจากเด็กปกติทางด้านเนื้อหา หลักสูตร กระบวนการที่ใช้ และการประเมินผล
สรุปได้ว่าเด็กที่มีความต้องการพิเศษหมายถึง
หมายถึง เด็กที่มีความผิดปกติ มีความบกพร่อง สูญเสีย สมรรถภาพ อาจเป็นความผิดปกติ ความบกพร่องทางกาย การสูญเสียสมรรถภาพทางสติปัญญา ทางจิตใจ
2. ทางการศึกษา
ให้ความหมายเด็กที่มีความต้องการพิเศษว่าหมายถึง เด็กที่มีความต้องการทางการศึกษาเฉพาะของตัวเอง ซึ่งจำเป็นต้องจัดการศึกษาให้ต่างไปจากเด็กปกติทางด้านเนื้อหา หลักสูตร กระบวนการที่ใช้ และการประเมินผล
สรุปได้ว่าเด็กที่มีความต้องการพิเศษหมายถึง
- เด็กที่ไม่อาจพัฒนาความสามารถได้เท่าที่ควรจากการให้การช่วยเหลือ และการสอนตามปกติ
- มีสาเหตุจากสภาพความ บกพร่องทางร่างกาย สติปัญญา และอารมณ์
- จำเป็นต้องได้รับการกระตุ้น ช่วยเหลือ การบำบัด และฟื้นฟู
- จัดการเรียนการสอนที่เหมาะกับลักษณะและความต้องการของเด็กแต่ละบุคคล
พฤติกรรมและพัฒนาการของเด็กที่มีความต้องการพิเศษพัฒนาการ
- การเปลี่ยนแปลงในด้านการทำหน้าที่และวุฒิภาวะของอวัยวะต่างๆรวมทั้งตัวบุคคล
- ทำให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
- เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้ากว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน
- พัฒนาการล่าช้าอาจพบเพียงด้านใดด้านหนึ่ง หลายด้าน หรือทุกด้าน
- พัฒนาการล่าช้าในด้านหนึ่งอาจส่งผลให้พัฒนาการในด้านอื่นล่าช้าด้วยก็ได้
ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก
- ปัจจัยทางด้านชีวภาพ
- ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมก่อนคลอด
- ปัจจัยด้านกระบวนการคลอด
- ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมหลังคลอด
สาเหตุที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการ
1. พันธุกรรม
1. พันธุกรรม
- เด็กจะมีพัฒนาการล่าช้ามาตั้งแต่เกิดหรือสังเกตได้ชั่วระยะไม่นานหลังเกิด มักมีลักษณะผิดปกติแต่กำเนิดร่วมด้วย
Cleft Lip / Cleft Palate
ธาลัสซีเมีย
- เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการส่วนใหญ่มักมีอาการหรืออาการแสดงทางระบบประสาทร่วมด้วย
- ที่พบบ่อยคืออาการชัก
3. การติดเชื้อ
- การติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์ น้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย ศีรษะเล็กกว่าปกติ อาจมีตับม้ามโต การได้ยินบกพร่อง ต้อกระจก
- นอกจากนี้การติดเชื้อรุนแรงภายหลังเกิด เช่น สมองอักเสบ เยื้อหุ้มสมองอักเสบ เป็นสาเหตุที่พบได้บ้าง
4. ความผิดปกติเกี่ยวกับเมตาบอลิซึม
- โรคที่ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขไทย คือ ไทรอยด์ฮอร์โมนในเลือดต่ำ
5. ภาวะแทรกซ้อนระยะแรกเกิด
- การเกิดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย และภาวะขาดออกซิเจน
6. สารเคมี
- ตะกั่วเป็นสารที่มีผลกระทบต่อเด็กและมีการศึกษามากที่สุด
- มีอากาศซึมเศร้า เคลื่อนไหวช้า ผิวดำหมองคล้ำเป็นจุดๆ
- ภาวะตับเป็นพิษ
- ระดับสติปัญญา
แอลกอฮอล์
นิโคติน
- น้ำหนักแรกเกิดน้อย
- มีอัตราการเพิ่มน้ำหนักหลังเกิดน้อย ศีรษะเล็ก
- พัฒนาการของสติปัญญาก็มีความบกพร่อง
- เด็กบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
Fetal alcohol syndrome, FAS
- ช่องตาสั้น
- ร่องริมฝีปากบนเรียบ
- ริมฝีปากบนยาวและบาง
- หนังคลุมหัวตามาก
- จมูกแบน
- ปลายจมูกเชิดขึ้น
นิโคติน
- น้ำหนักแรกเกิดน้อย ขาดสารอาหารในระยะตั้งครรภ์
- เพิ่มอัตราการตายในวัยทารก
- สติปัญญาบกพร่อง
- สมาธิสั้น พฤติกรรมก้าวร้าว มีปัญหาด้านการเข้าสังคม
7. การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมรวมทั้งการขาดสารอาหาร
8. สาเหตุอื่นๆ เช่น อุบัติเหตุ เป็นต้น
อาการของเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
แนวทางการวินิจฉัยเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
8. สาเหตุอื่นๆ เช่น อุบัติเหตุ เป็นต้น
อาการของเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
- มีพัฒนาการล่าช้าซึ่งอาจจะพบมากกว่า 1 ด้าน
- ปฏิกิริยาสะท้อน (primitive reflex) ไม่หายไปแม้จะถึงช่วงอายุที่ควรจะหายไป
แนวทางการวินิจฉัยเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
1. การซักประวัติ
เมื่อซักประวัติแล้วจะสามารถบอกได้ว่า
- โรคประจำตัว โรคทางพันธุกรรม
- การเจ็บป่วยในครอบครัว
- ประวัติฝากครรภ์
- ประวัติเกี่ยวกับการคลอด
- พัฒนาการที่ผ่านมา
- การเล่นตามวัย การช่วยเหลือตนเอง
- ปัญหาพฤติกรรม
- ประวัติอื่นๆ
เมื่อซักประวัติแล้วจะสามารถบอกได้ว่า
- ลักษณะพัฒนาการล่าช้าเป็นแบบคงที่ หรือถดถอย
- เด็กมีระดับพัฒนาการช้าหรือไม่ อย่างไร อยู่ในระดับไหน
- มีข้อบ่งชี้ว่ามีสาเหตุจากโรคทางพันธุกรรมหรือไม่
- สาเหตุของความบกพร่องทางพัฒนาการนั้นเกิดจากอะไร
- ขณะนี้เด็กได้รับการช่วยเหลือและฟื้นฟูอย่างไร
2. การตรวจร่างกาย
- ตรวจร่างกายทั่วๆไปและการเจริญเติบโต
- ภาวะตับม้ามโต
- ผิวหนัง
- ระบบประสาทและวัดรอบศีรษะด้วยเสมอ
- ดูลักษณะของเด็กที่ถูกทารุณกรรม (child abuse)
- ระบบการมองเห็นและการได้ยิน
3. การสืบค้นทางห้องปฏิบัติการ
4.การประเมินพัฒนาการ
4.การประเมินพัฒนาการ
- การประเมินแบบไม่เป็นทางการ
- การประเมินที่ใช้ในเวชปฏิบัติ
- แบบทดสอบ Denver II
- Gesell Drawing Test
- แบบประเมินพัฒนาการเด็กตามคู่มือส่งเสริมพัฒนาการเด็กอายุแรกเกิด - 5 ปี สถาบันราชานุกูล
กิจกรรมสุดท้ายอาจารย์ให้นักศึกษาทดสอบตนเอง โดยใช้แบบทดสอบ
Gesell Drawing Test เป็นการวัดไอคิวเด็กแบบง่ายๆ ลองให้เด็กวาดรูปตามแบบที่กำหนดซึ่งเป็น
ความสามารถด้านกล้ามเนื้อมือ และการประสานงานของตากับมือตามระดับอายุที่ควรจะเป็น
- การทบทวนความรู้เดิมที่มีอยู่
- เทคนิคการใช้คำพูดเพื่อใช้สนทนากับผู้ปกครอง
- เทคนิคการทัศนะคติที่ดีต่อเด็ก
- เทคนิคการทดสอบสมองของเด็ก
- การทราบถึงความหมาย อาการและเทคนิคการจัดการเรียนการสอนแก่ที่มีความต้องการพิเศษ
การนำไปใช้
- เทคนิคการใช้คำพูดเพื่อใช้สนทนากับผู้ปกครองเพื่อสร้างความเชื่อมั่น
- วิธีการสังเกตและเทคนิคการเรียนการสอนของเด็กพิเศษในห้องเรียน
- ใช้แบบทดสอบสมองให้แก่เด็กในห้องเรียนได้
- ให้คำปรึกษาแก่พ่อแม่ผู้ปกครองได้
ประเมิน
ตนเอง : เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งเรียน แต่งตัวถูกระเบียบ
เพื่อน : แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ตั้งใจฟังอาจารย์สอน
อาจารย์ : แต่งกายเหมาะสม บุคลิกดี สอนเป็นกันเอง มีการยกตัวอย่างให้นักศึกษาดู
Gesell Drawing Test เป็นการวัดไอคิวเด็กแบบง่ายๆ ลองให้เด็กวาดรูปตามแบบที่กำหนดซึ่งเป็น
ความสามารถด้านกล้ามเนื้อมือ และการประสานงานของตากับมือตามระดับอายุที่ควรจะเป็น
Gesell Drawing Test
ความรู้ที่ได้รับ- การทบทวนความรู้เดิมที่มีอยู่
- เทคนิคการใช้คำพูดเพื่อใช้สนทนากับผู้ปกครอง
- เทคนิคการทัศนะคติที่ดีต่อเด็ก
- เทคนิคการทดสอบสมองของเด็ก
- การทราบถึงความหมาย อาการและเทคนิคการจัดการเรียนการสอนแก่ที่มีความต้องการพิเศษ
การนำไปใช้
- เทคนิคการใช้คำพูดเพื่อใช้สนทนากับผู้ปกครองเพื่อสร้างความเชื่อมั่น
- วิธีการสังเกตและเทคนิคการเรียนการสอนของเด็กพิเศษในห้องเรียน
- ใช้แบบทดสอบสมองให้แก่เด็กในห้องเรียนได้
- ให้คำปรึกษาแก่พ่อแม่ผู้ปกครองได้
ประเมิน
ตนเอง : เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งเรียน แต่งตัวถูกระเบียบ
เพื่อน : แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ตั้งใจฟังอาจารย์สอน
อาจารย์ : แต่งกายเหมาะสม บุคลิกดี สอนเป็นกันเอง มีการยกตัวอย่างให้นักศึกษาดู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น